pep

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กับมุมมองฟุตบอล

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยอดเทรนเนอร์สเปนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรดังแห่งศึก พรีเมียร์ลีก ก็เป็นอีกคนหนึ่งในได้รับกลิ่นอายจากวงการลูกหนังเมืองเบียร์มาพอสมควร หลังจากที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวเคยคุม บาเยิร์น มิวนิค ในบุนเดสลีกา นานถึง 3 ปีเต็ม

หลังอำลา บาร์เซโลน่า ในศึกลา ลีกา สเปน เมื่อปี 2012 นั้น 1 ปีต่อมา กวาร์ดิโอล่า ก็เข้าไปคุม บาเยิร์น พร้อมกับพาพลพรรค “เสือใต้” ประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์ลีก 3 สมัยติดต่อกัน, แชมป์เดเอฟเบ โพคาล 2 สมัย, แชมป์ยูฟ่า ซุเปอร์ คัพ 1 สมัย และแชมป์สโมสรโลก 1 สมัย ก่อนจะไปคุม แมนฯ ซิตี้ ในปี 2016

ขณะเดียวกัน ตลอด 1-2 ปีที่ผ่านมา ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า อิทธิพลของสไตล์ฟุตบอลเยอรมันนั้น แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วในหลายๆสโมสรของศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ หลังจากที่บรรดาทีมในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี มักเลือกใช้กุนซือที่คุมทีมด้วยการเน้นเพรสซิ่ง และโต้กลับไว

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กับสไตล์ฟุตบอลเยอรมัน

กวาร์ดิโอล่า เริ่มเล่าว่า “เมื่อ เจสซี่ มาร์ช เข้ามาคุม ลีดส์ ยูไนเต็ด มันมีแนวโน้มมากๆที่เขาจะปรับสไตล์ให้เป็นแบบนั้นอยู่แล้ว พวกคุณก็รู้ดี เขาชื่นชอบสไตล์ฟุตบอลเยอรมันมากๆ และตอนนี้ในพรีเมียร์ลีกก็มีถึง 4 สโมสรที่เล่นในแนวทางดังกล่าว”

4 สโมสรที่ กวาร์ดิโอล่า กล่าวถึงล้วนได้รับอิทธิพลมาจาก ราล์ฟ รังนิก อดีตกุนซือชั่วคราวของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งได้รับการยกย่องว่า เปรียบเสมือนอาจารย์ในการเล่นฟุตบอลสไตล์เพรสซิ่ง โดยทีมอย่าง ลิเวอร์พูล, เชลซี, เซาแธมป์ตัน และ ลีดส์ ล้วนแต่ได้รับอิทธิพลมาจาก รังนิก แทบทั้งสิ้น

โธมัส ทูเคิ่ล โค้ช เชลซี, มาร์ช กุนซือ ลีดส์, เจอร์เก้น คล็อปป์ เทรนเนอร์ ลิเวอร์พูล, และ ราล์ฟ ฮาเซนฮุทเทิ่ล นายใหญ่ เซาแธมป์ตัน ต่างก็มี รังนิก เป็นต้นแบบในการทำทีมทั้งหมด และไม่น่าแปลกใจเลยที่สโมสรเหล่านี้จะเล่นฟุตบอลในสไตล์ที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งแตกต่างแค่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆเท่านั้น

กวาร์ดิโอล่า กล่าวเสริมว่า “ทั้ง 4 ทีม มีโค้ชคนละคนก็จริง แต่พวกเขาก็เล่นฟุตบอลในแนวทางที่ใกล้เคียงกันมากๆ นี้ อาทิ การเพรสซิ่งสูงที่ทุกคนในทีมต้องร่วมมือกัน มันไม่สำคัญหรอกว่า จะเสียบอลหรือไม่ เพราะพวกเขาจะเอาบอลคืนมาโดยเร็วที่สุด และโจมตีคุณอีกครั้งทันที”

“สำหรับผมคิดว่า มันเป็นวิธีการที่ดีอย่างไม่น่าเชื่อ และมันส่งผลกระทบเชิงบวกกับฟุตบอลในอังกฤษมากๆ ผมคิดว่า สไตล์การเล่นแบบนี้มันน่าดึงดูดมากๆนะ เมื่อพวกเขาทำผลงานได้ดี มันน่าตื่นเต้นสำหรับแฟนบอล และพวกเขาก็ประสบความสำเร็จได้ด้วย”

การทำงาน 3 ปี ในเยอรมันกับ บาเยิร์น นั้น ปฏิเสธได้เลยว่า กุนซือชาวสเปนวัย 51 ปี ก็ได้รับอิทธิพลมาเช่นกัน โดยเจ้าตัวอธิบายว่า “แน่นอน ผมเรียนรู้มากมายจาการทำงานในเยอรมัน ผมปรับตัวได้ดี และทำงานได้ดีกับ บาเยิร์น”

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

หลักการ และปรัชญาทำงานของตัวเอง

อย่างไรก็ตาม แม้สไตล์การเล่นของฟุตบอลของเยอรมันจะสนุก เร้าใ น่าตื่นเต้น และมีเสน่ห์ดึงดูดมากแค่ไหน แต่สำหรับ กวาร์ดิโอล่า นั้น หลักการทำงานของเขาจะยังไม่เปลี่ยนแปลง และมันก็จะเป็นแนวทางนี้ตลอดไป

อดีตนายใหญ่ บาร์เซโลน่า กล่าวต่ออีกว่า “ฟังนะ ผมมาจากกาตาลุญญ่า การศึกษาเรื่องฟุตบอลของผมมาจากที่นั่น และผมก็ได้เรียนรู้มากมายที่นั่นเช่นกัน ผมได้ประสบการณ์มากมายในเยอรมัน แต่หลักการของผมมาจากที่สเปน แต่ถ้าผมเกิดในเยอรมันพร้อมกับเห็นแนวทางของ ราล์ฟ รังนิก และ เจอร์เก้น คล็อปป์ บางทีผมอาจจะชอบแบบนั้นก็ได้”

“แต่ผมรู้สึกถึงฟุตบอลอย่างที่ผมรู้สึก และผมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงคนอื่นๆได้เลยว่าพวกเขาจะคิดแบบไหน เพราะพวกเขาเคยประสบความสำเร็จกับแนวทางของตัวเองทั้งนั้น และเราทุกคนต้องทำสิ่งที่ตัวเองต้องการ”

แมนฯ ซิตี้ ภายใต้การนำของ กวาร์ดิโอล่า นั้น เคยทำผลงานยอดเยี่ยมด้วยการไม่พบกับความพ่ายแพ้ในลีกเลยยาวนาน 2-3 เดือน รวมทั้งยังเคยเก็บชัยชนะ 21 เกมติดต่อกันรวมทุกรายการมาแล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เห็นได้ว่า สไตล์ของอดีตโค้ช บาร์เซโลน่า ก็ได้ผลเช่นเดียวกัน

คุณลักษณะการดเล่นที่ชัดเจนของ แมนฯ ซิตี้ ทำให้แฟนบอลได้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างทีมระดับท็อปด้วยกันอย่าง ลิเวอร์พูล และ เชลซี โดยพลพรรค “เรือใบสีฟ้า” เน้นเรื่องรายละเอียดในการเข้าทำประตูคู่แข่ง และการครองครองบอลในแดนคู่แข่งเพื่อปิดโอกาสการโต้กลับเร็วของฝ่ายตรงข้าม  

“ผมเข้าใจมากขึ้นว่าผู้เล่นสามารถทำผิดพลาดได้ ก่อนหน้านี้ผมกังวล และโกรธมากๆ แต่บางครั้งผมก็เข้าใจ เพราะผมรู้ว่าพวกเขาทุกคนต้องการทำผลงานให้ดี ผมรู้ว่าพวกเขาต้องการเอาชนะให้ได้ ผมรู้ว่าพวกเขาต้องการคว้าแชมป์”

“บางครั้งมันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ผิดพลาดเลย แต่ความกังวลของผมจะไม่เปลี่ยนวิธีการเล่นของลูกทีมตัวเองแน่นอน คุณรู้ไหม หลังจากทุกการทำผิดพลาด ผมกังวล และโกรธ แต่หลังจากนั้นมัน็หายไป ผมแก้ไข ความผิดพลาดในสนามไม่ได้ แล้วทำไม ผมต้องวิจารณ์ว่า พวกเขาผิดพลาดตรงไหน” อดีตกุนซือ บาร์เซโลน่า และ บาเยิร์น กล่าวปิดท้าย