ในช่วงเวลาที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยอดผู้จัดการทีมชาวสเปน ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรมหาเศรษฐีแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กำลังจะหมดสัญญานั้น มันเป็นสถานการณ์ที่บรรดาสื่อมวลชนต่างก็ให้ความสนใจเป็นพิเศษ
ก่อนหน้านี้ คัลดูน อัล มูบารัค ประธานสโมสร แมนฯ ซิตี้ ก็เคยออกมายอมรับว่าอนาคตการทำงานของ กวาร์ดิโอล่า จะเป็นประเด็นที่ถูกหยิบยกมาพูดคุยเสมอโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสัญญาของ อดีตนายใหญ่ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า ในศึกลา ลีกา สเปน และ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ในศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน กำลังจะหมดลง
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มักจะถูกจับตามองเมื่อสัญญากับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะหมดลง
อัล มูบารัค กล่าวว่า “เป๊ป ไม่เคยอยู่กับสโมสรไหนนานเท่ากับที่นี่ ไม่ว่าจะเป็น บาร์เซโลน่า หรือบาเยิร์น มิวนิค คำถามเรื่องอนาคตของเขามันมีมาตั้งแต่ปีที่แล้ว และเมื่อ 3 ปีที่แล้วเราก็ถูกถามแบบนี้เข่นเดียวกัน และแน่นอนว่า ที่ผ่านมามันเป็นความร่วมมือระหว่างเรากับ เป๊ป ในการทำสิ่งมหัศจรรย์ร่วมกันมาหลายปีแล้ว”
อัล มูบารัค เคยเจอสถานการณ์แบนนี้มาก่อนเมื่อ กวาร์ดิโอล่า เข้าสู่ปีสุดท้ายของสัญญาฉบับล่าสุดเมื่อต้นฤดูกาล 2020-21 ตอนนั้นมีการคาดเดากันว่า โค้ชชาวสเปนวัย 51 ปี จะอยากพักผ่อนชาร์จแบตให้กับตัวเอง เพราะเขาทำงานกับ “เรือใบสีฟ้า” นานกว่าที่ บาร์เซโลน่า และ บาเยิร์น
อย่างไรก็ตาม ในที่สุดเดือนพฤศจิกายนปี 2020 กวาร์ดิโอล่า ก็ตัดสินใจจรดปากกาต่อสัญญากุมบังเหียนในถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม ออกไปจนถึงซัมเมอร์ปี 2023โดยเจ้าตัวอ้างถึงความสัมพันธ์ที่ยอดเยี่ยมของเขากับสโมสรเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการตัดสินใจของเขาที่อยู่ต่อ
กวาร์ดิโอล่า เคยให้สัมภาษณ์ถึงการต่อสัญญาฉบับใหม่เมื่อ 2 ปีก่อนว่า “การได้รับการสนับสนุนแบบนั้นจากสโมสรเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ผู้จัดการทีมทุกคนสามารถมีได้ ที่สโมสรแห่งนี้ผมมีทุกอย่างที่ผมต้องการจะทำงานให้ได้ดี และผมรู้สึกถ่อมตัวกับความมั่นใจของเจ้าของทีม, ประธานสโมสร, เฟร์ราน โซเรียโน่ (ผู้อำนวยการบริหาร) และ ชิกิ เบกิเรสไตน์ (ผู้อำนวยการกีฬา)”
ความสัมพันธ์ที่ยอดเยี่ยมกับบอร์ดบริหารของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ส่วนหนึ่งที่ กวาร์ดิโอล่า ทำงานกับ แมนฯ ซิตี้ ได้นานกกว่าสโมสรอื่นนั้น มันเป็นผลพวงมิตรภาพของเขากับ โซเรียโน่ และ เบกิเรสไตน์ ซึ่งพวกเขาทั้ง 3 คน เคยทำงานอยู่ด้วยกันที่ บาร์เซโลน่า มานานหลายปีเลยทีเดียว
กวาร์ดิโอล่า, โซเรียโน่ และ เบกิเรสไตน์ ช่วยกันสร้างให้ แมนฯ ซิตี้ เป็นทีมที่แข็งแกร่ง และมีขุมกำลังเชิงลึกที่สุดยอดมาหลายปีแล้ว ซึ่งมันเป็นหนึ่งในเรื่องที่พวกเขาประสบควาทสำเร็จมากที่สุดในการสร้างอาณาจักร “เรือใบสีฟ้า”
กวาร์ดิโอล่า อธิบายว่า “มันไม่ใช่แค่ฤดูกาลที่ 2 หรือ 3 แล้ว และผมต้องดูคอยว่า ตัวเองทำงานอย่างไร ผมไม่อยากให้มันเป็นปัญหา บางครั้งเมื่อคุณถูกจับตามองพวกเขามากเกินไปมันก็ไม่ดี ดังนั้น คุณต้องปล่อยผ่านมันไปบ้าง และผ่อนคลายกับมัน”
“สถานการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นเมื่อทุกอย่างมันเป็นไปตามธรรมชาติ ถ้าคุณกังวลกับมันมากเกินไป มันจะไม่เป็นไปด้วยดีหรอก เราจะรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างฤดูกาลนี้ และความรู้สึกของเรา และการตัดสินใจที่ดีที่สุดสำหรับสโมสรจะต้องดำเนินต่อไป”
กวาร์ดิโอล่า, โซเรียโน่ และ เบกิเรสไตน์ ยังคงทำงานหนักของพวกเขาต่อไปทั้งใน และนอกสนาม และที่ยอดเยี่ยมไปกว่านั้น แมนฯ ซิตี้ ชุดนี้ มีนักเตะเพียง 4 คน ที่อายุมากกว่า 30 ปี คือ เควิน เดอ บรอยน์ จอมทัพชาวเบลเยียม, อิลกาย กุนโดกัน กองกลางชาวเยอรมัน, ไคล์ วอล์คเกอร์ แบ็คชาวอังกฤษ และ ริยาด มาห์เรซ ปีกชาวแอลจีเรีย
ขณะที่กำลังสำคัญอย่าง เออร์ลิง ฮาแลนด์ หัวหอกชาวนอร์เวย์ ที่ย้ายมาจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา และ ฟิล โฟเดน มิดฟิลด์ดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษ ก็ยังไปไม่ถึงจุดพีคของตัวเองเลยด้วยซ้ำ ซึ่งหมายความว่า ความสำเร็จของ แมนฯ ซิตี้ จะยังคงดำเนินต่อไป
อย่างไรก็ตาม กวาร์ดิโอล่า ไม่ต้องการเป็นผู้จัดการทีมของ แมนฯ ซิตี้ ตลอดไป เขามีความทะเยอทะยานเกินขีดจำกัด และเป็นไปได้ว่า เจ้าตัวจะหยุดพักหลังจากอำลา “เรือใบสีฟ้า” เพื่อไปท่องเที่ยว ใช้เวลากับครอบครัว และเล่นกอล์ฟ
กวาร์ดิโอล่า ไม่เคยปิดบังความต้องการของตัวเองในการคุมทีมชาติเพื่องแข่งขันรายการใหญ่ แต่ในช่วงเวลานี้ อัล มูบารัค, โซเรียโน่ และ เบกิเรสไตน์ ก็ได้เพียงแต่หวังว่า โค้ชวัย 51 ปี ยังคงมีแรงจูงใจที่จะทำงานกับ แมนฯ ซิตี้ ต่อไปอีกสัก 1-2 ปี
เมื่อไม่มีความปรารถนาที่จะทำงานในยุค 60 และ 70 อย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน หรือ อาร์แซน เวนเกอร์ เวลาของ กวาร์ดิโอล่า กับ แมนฯ ซิตี้ ก็จะสิ้นสุดลงในที่สุด แต่ตอนนี้ทุกคนในทัพ “เรือใบสีฟ้า” ก็ได้แต่ภาวนาว่า ยอดผู้จัดการทีมสมองเพชรคนนี้จะยังอยู่คุมทัพในถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม ต่อไป
