pep

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มีชื่อเต็มว่า โจเซฟ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ซาล่า เป็นยอดผู้จัดการทีมของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และถือเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีอิทธิพลอย่างมากของวงการฟุตบอลในยุคปัจจุบัน

กวาร์ดิโอล่า เกิดเมื่อวันที่ 18 มกราคม ปี 1971 ที่เมืองซันต์เปดอร์ บาร์เซโลน่า แคว้นคาตาลุญญ่า ประเทศสเปน และเข้าสู่การเป็นนักเตะเยาวชนของ บาร์เซโลน่า ทีมดังแห่งศึกลา ลีกา 1984 ก่อนจะได้ลงประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในปี 1990 ภายใต้การคุมทัพของ โยฮัน ครัฟฟ์ ตำนานโค้ชชาวดัตช์

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

จุดเริ่มต้นของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

ในซีซั่นแรก กวาร์ดิโอล่า ได้ลงสนามให้ทีมชุดแรกของ บาร์เซโลน่า ไปเพียง 4 เกม แต่ในปีต่อมาเขาก็ก้าวมายึดตำแหน่งตัวจริงของ “เจ้าบุญทุ่ม” ได้อย่างน่าเหลือเชื่อในบทบาทมิดฟิลด์ตัวรับที่เล่นฟุตบอลด้วยมันสมอง อ่านเกมยอดเยี่ยม และมีวิสัยทัศน์ในการผ่านบอลที่สุดยอด

นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา กวาร์ดิโอล่า ก็กลายเป็นหัวใจสำคัญในแผงกองกลางของ บาร์เซโลน่า มาตลอด โดยพาทีมประสบความสำเร็จมากมายคว้าการแชมป์บอลลีก 6 สมัย, แชมป์สแปนิช คิง คัพ 2 สมัย, แชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ ปี 1992 และแชมป์คัพ วินเนอร์ส คัพ ปี 1997

ก่อนจะย้ายออกจากถิ่น คัมป์ นู ไปในปี 2001

หลังอำลา บาร์เซโลน่า อดีตห้องเครื่องทีมชาติสเปน ก็ย้ายไปค้าแข้งกับ เบรสชา ในอิตาลี 1 ปี จากนั้น ก็ไปเล่นกับ โรม่า 1 ฤดูกาล และก็ตระเวนไปเล่นกับ อัล อาห์ลี ในกาตาร์ และไปแขวนสตั๊ดกับ โดราโดส เด ซินาลัว ในเม็กซิโก เมื่อปี 2006

 ภายหลังประกาศอำลาสนามหญ้า อดีตแข้ง บาร์ซ่า ก็เริ่มเข้าศึกษางานโค้ช และในปี 2007 เขาก็หวนกลับไปยัง คัมป์ นู อีกครั้ง ด้วยการรับงานคุมทัพ “เจ้าบุญทุ่ม” ชุด บี ซึ่งเขาก็สร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมทันทีด้วยการพาทีมเลื่อนชั้นขึ้นมาจากระดับดิวิชั่น 4 แดนกระทิงดุได้สำเร็จ

ต่อมาในปี 2008 กวาร์ดิโอล่า ได้รับโอกาสครั้งสำคัญในเส้นทางกุนซือหลังได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามาคุมทีมชุดใหญ่ของ บาร์เซโลน่า ต่อจาก แฟรงค์ ไรจ์การ์ด เทรนเนอร์ชาวดัตช์

เขาก็สร้างชื่อได้อย่างรวดเร็วด้วยการพา “เจ้าบุญทุ่ม” คว้า 3 แชมป์ในการคุมทีมฤดูกาลแรกได้แก่ แชมป์ลา ลีกา, แชมป์สแปนิช คิง คัพ และแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

ในฤดูกาลต่อมา กวาร์ดิโอล่า ยังยอดเยี่ยมต่อเนื่องหลังจากสามารถพา บาร์เซโลน่า คว้าแชมป์ได้รวม 6 รายการ โดยมีแชมป์สแปนิช ซูเปอร์ คัพ, แชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และแชมป์สโมสรโลก เพิ่มเข้ามาจากปีก่อนที่ยังป้องกันแชมป์ 3 รายการไว้ได้

 ปีที่ 3 กับ บาร์เซโลน่า นั้น กวาร์ดิโอล่า ยังคงพาทีมป้องกันแชมป์ลา ลีกา ไว้ได้อีก เช่นเดียวกันกับแชมป์สแปนิช ซูเปอร์ คัพ แต่น่าเสียดายที่พ่ายให้กับ เรอัล มาดริด คู่อริตลอดกาล ในเกมนัดชิงดำสแปนิช คิง คัพ 0-1

ซีซั่น 2011-12 อดีตกองกลาง “กระทิงดุ” ยังคงพา บาร์ซ่า คว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ และสแปนิช ซูเปอร์ คัพ รวมทั้งแชมป์สโมสรโลกเป็นสมัยที่ 2 และเขาก็เคยประกาศล่วงหน้าตั้งแต่ในเดือนเมษายน ปี 2012 ว่า เขาอำลาทีมหลังจากจบฤดูกาล

ประสบความสำเร็จในต่างแดน

หลังจากอิ่มตัวกับ บาร์ซ่า กวาร์ดิโอล่า ก็อยากหาความท้าทายใหม่ๆให้กับตัวเอง ซึ่งในปี 2013 เจ้าตัวก็โยกไปคุม บาเยิร์น มิวนิค ในศึกบุนเดสลีกา แทนที่ของ จุ๊ปป์ ไฮย์เกส์ กุนซือมากประสบการณ์ชาวเยอรมันที่อำลาวงการ

กวาร์ดิโอล่า ก็ยังประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องกับ บาเยิร์น ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ลีกได้ถึง 3 สมัยติดต่อกัน คว้าแชมป์เดเอฟเบ โพคาล 2 สมัย, แชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และแชมป์สโมสรโลก อย่างละ 1 สมัย ก่อนวางมือจาก “เสือใต้” ในเดือนมิถุนายนปี 2016

 กวาร์ดิโอล่า เดินหน้ามาหาความท้าทายในศึกพรีเมียร์ลีก ด้วยการเข้ามาคุม แมนฯ ซิตี้ ต่อจาก มานูเอล เปเยกรินี่ เทรนเนอร์ชาวชิลี ในเดือนกรกฎาคมปี 2016 และนั่นคือจุดเริ่มต้นในการสร้างความยิ่งใหญ่ของพลพรรค “เรือใบสีฟ้า” อย่างแท้จริง

อดีตนายใหญ่ บาร์ซ่า และ บาเยิร์น พา แมนฯ ซิตี้ เดินหน้าชนความสำเร็จมากมายด้วยการคว้าแชมป์ลีกได้ถึง 4 สมัย, แชมป์เอฟเอ คัพ 1 สมัย และแชมป์ลีก คัพ 4 สมัย แต่สิ่งที่ท้าทายเขาที่สุดคือการพาพลพรรค “เรือใบสีฟ้า” คว้าแชมป์ยุโรปให้ได้

นอกจากนี้ โค้ชชาวสเปนวัย 51 ปี ยังเคยสร้างสถิติในเมืองผู้ได้ไว้อาทิ พา แมนฯ ซิตี้ เป็นทีมแรกในรอบ 10 ปีที่หลังจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2008–09 ที่ป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ

และเป็นทีมแรกที่ทำคะแนนใน 1 ฤดูกาลถึง 100 แต้ม (ซีซั่น 2017-2018)

กวาร์ดิโอล่า สร้างให้ แมนฯ ซิตี้ กลายเป็นทีมที่เล่นฟุตบอลเกมรุกได้น่าตื่นเต้นที่สุดลำดับต้นๆของโลก และเขายังเป็นเหมือนคนที่ปฏิวัติวงการฟุตบอลอังกฤษพัฒนาไปอีกระดับเลยก็ว่าได้

นอกจากนี้ เขายังเป็นต้นแบบของกุนซือยุคใหม่หลายๆคนอีกด้วย สัญญาฉบับปัจจุบันของ กวาร์ดิโอล่า กับ แมนฯ ซิตี้ จะหมดลงในปี 2023 และตอนนี้ยังไม่มีทีท่าว่า ทั้ง 2 ฝ่ายจะเจรจาสัญญาฉบับใหม่กันแต่อย่างใด ซึ่งก่อนหน้านี้ เขาเคยให้สัมภาษณ์ว่า อยากจะไปคุมทีมชาติในอนาคต และบางทีหลังหมดสัญญากับ “เรือใบสีฟ้า” เจ้าตัวอาจไปทำตามความฝันก็ได้