“ความสัมพันธ์ที่ดีภายในทีม มีค่ามากกว่าการนั่งเรียนรู้เรื่องแท็คติคมากกว่า 100 ชั่วโมง” บิเซนเต้ เดล บอสเก้ ตำนานกุนซือทีมชาติสเปน และ เรอัล มาดริด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกลา ลีกา กล่าวกับ El Pais สื่อในแดนกระทิงดุเมื่อปี 2014 ซึ่ง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็คงมีแนวทางเดียวกัน
เดล บอสเก้ ประสบความสำเร็จอย่างมากมายด้วยการพาสเปนคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก และแชมป์ยูโร มาแล้ว รวมถึงพา มาดริด คว้าแชมป์ลา ลีกา และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยเช่นกัน ซึ่งคำพูดของเขานั้น กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึก พรีเมียร์ลีก ก็คงนำมาใช้เช่นกัน
ซัมเมอร์ที่ดีของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
ในตลาดนักเตะรอบนี้ แมนฯ ซิตี้ เสียผู้เล่นหลักไปถึง 3 ราย ประกอบด้วย กาเบรียล เฆซุส กองหน้าชาวบราซิล และ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ดาวชาวยูเคน ย้ายไปยัง อาร์เซน่อล ส่วน ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ปีกทีมชาติอังกฤษ ย้ายไปยัง เชลซี
กวาร์ดิโอล่า ยอมรับว่า มันอาจไม่เหมาะสมที่จะปล่อยนักเตะหลักให้กับทีมคูแข่งในลีกเดียวกัน แต่เช่นเดียวกับ เดล บอสเก้ ว่า ความสามัคคีในห้องแต่งตัวมาก่อนทุกอย่างเสมอ โดย เฆซุส และ สเตอร์ลิ่ง ทั้งคู่เหลือสัญญาอีกเพียงหนึ่งปี และต้องการลงเล่นให้สม่ำเสมอกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม กวาร์ดิโอล่า ไม่สามารถรับประกันโอกาสลงสนามของ เฆซุส และ สเตอร์ลิ่ง ได้ และในที่สุด แมนฯ ซิตี้ ก็ต้องยอมรับข้อเสนอจำนวน 45 ล้านปอนด์ จาก อาร์เซน่อล และ จำนวน 50 ล้านปอนด์ จาก เชลซี ตามลำดับ
สำหรับ กวาร์ดิโอล่า ไม่มีอะไรคุ้มค่าไปกว่าการได้ความสามัคคีของทีม ซึ่งการเก็บผู้เล่นที่ไม่มีความสุขกับสโมสรต่อไปนั้น มีความเสี่ยงสูงเกินไปไม่ว่านักเตะจะเก่งแค่ไหนก็ตาม และการปล่อยตัว เฆซุส และ สเตอร์ลิ่ง จึงเป็นทางออกที่ดีของทุกฝ่าย
กวาร์ดิโอล่า เป็นโค้ชที่ประสบความสำเร็จมากมายที่ บาร์เซโลน่า, บาเยิร์น มิวนิค และล่าสุดกับ แมนฯ ซิตี้ และจะเป็นไปไม่ได้เลยหากไม่มีงบประมาณก้อนโต และนักเตะที่ดีภายในทีมของเขา ซึ่งนายใหญ่ชาวสเปน ต้องแน่ใจว่า เขามีขุมกำลังเชิงลึกดีพอในการต่อสู้กับทีมอื่นๆ
แนวทางการทำงานที่ชัดเจน
ในการหารือเกี่ยวกับการสร้างทีม แมนฯ ซิตี้ นั้น กวาร์ดิโอล่า มักจะบอก ซิกิ เบกิริสไตน์ ผู้อำนวยการฟุตบอล “เรือใบสีฟ้า” ว่า เขาไม่ต้องการผู้เล่นระดับโลก2 คนสำหรับทุกตำแหน่ง แต่เขาต้องการผู้เล่นกลุ่มเล็กๆ ที่สามารถเล่นในตำแหน่งที่แตกต่างกัน 2 หรือ 3 ตำแหน่งได้
ขณะเดียวกัน หากมีปัญหาเกิดขึ้นระหว่างฤดูกาล วิธีแก้ปัญหาของ กวาร์ดิโอล่า คือ ขอให้นักเตะของเขาปรับตัวแทนที่จะมองหาวิธีแก้ปัญหาในตลาดซื้อ-ขาย และตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม ในปี 2016 นั้น เขาก็แก้ปัญหาเฉพาะหน้ามากมาย
ฤดูกาลที่แล้ว แมนฯ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้อย่างยอดเยี่ยม แม้จะไม่มีกองหน้าธรรมชาติอยู่ในทีมก็ตาม โดยหลังจากปล่อย เซร์คิโอ อเกวโร่ ย้ายไป บาร์เซโลน่า แบบฟรีๆ พวกเขาพยายามเซ็นสัญญากับ แฮร์รี่ เคน หัวหอกของ ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ
นอกจากจะไม่ได้ตัว เคน แล้ว กวาร์ดิโอล่า ยังปล่อยตัว เฟร์ราน ตอร์เรส ตัวรุกชาววสเปนวัย 21 ปี ให้กับ บาร์เซโลน่า ด้วยค่าตัว 46 ล้านปอนด์ ในเดือนตลาดนักเตะเดือนมกราคมที่ผ่านมาอีกด้วย ซึ่งมันสร้างความประหลาดใจให้กับคนทั้งใน และนอกสโมสรอย่างมากทีเดียว
กวาร์ดิโอล่า เคยให้สัมภาษณ์หลังปล่อยตัว ตอร์เรส ว่า “ถ้าคุณอยาก้ายออกไป เพราะคุณไม่มีความสุขที่นี่ และคุณเชื่อว่าคุณจะมีความสุขที่อื่น คุณก็ต้องไป อาชีพนี้มันสั้นนัก วันหนึ่งมันก็ต้องจบลง ถ้าเขาต้องการจะไป เขาจะไม่ผิดหวังแน่นอน มันเป็นความปรารถนาของเขา และผมยินดีกับเขาด้วย”
กฎเดียวกันนี้ถูกใช้กับ เฆซุส และ สเตอร์ลิ่ง ในซัมเมอร์นี้เช่นกัน ซึ่งการปล่อยให้ผู้เล่นตัดสินใจอนาคตของตัวเองเป็นนโยบายที่มาพร้อมกับความเสี่ยง แต่สำหรับ กวาร์ดิโอล่า นั้น เขาสามารถรับมือกับมันได้อย่างไม่มีปัญหา
อดีตกุนซือ บาร์ซ่า และ บาเยิร์น กล่าวว่า “ผมชอบทำงานกับทีมกลุ่มเล็กๆที่ไม่ต้องเคร่งเครียดนัก ผมอยู่ในสถานการณ์นี้มาหลายปีแล้ว โชคดีที่ผมอยู่ในสโมสรชั้นนำอย่าง บาร์เซโลน่า, บาเยิร์น มิวนิค และตอนนี้กับ แมนฯ ซิตี้ และเราต่อสู้เพื่อคว้าแชมป์ในทุกการแข่งขัน ผมเรียนรู้มากมายจากประสบการณ์ที่ผ่านมา”
“ถ้าคุณต้องการต่อสู้เพื่อชนะ คุณต้องฟิต คุณต้องมีนักเตะ 16, 17 หรือ 18 คนที่คุณต้องฟิตตลอดเวลา ไม่อย่างนั้นแล้วมันจะยากที่จะจัดการกับการแข่งขันทั้งหมด และพร้อมสำหรับทุกรายการ พวกเขาอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด นี่ไม่ใช่การโต้เถียง มันคือข้อเท็จจริง”
ขณะเดียวกัน เดล บอสเก้ เชื่อว่า ความสัมพันธ์ระหว่างผู้เล่นภายในทีมด้วยกันนั้น เป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในการทำให้ทีมประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นสิ่งที่ กวาร์ดิโอล่า ก็เรียนรู้ และก็มีความเชื่อแบบนั้นเช่นเดียวกัน
เดล บอสเก้ เคยให้สัมภาษณ์เมื่อถูกถามว่า เขาจัดการทีมที่เต็มไปด้วยซุเปอร์สตาร์อย่าง มาดริด ได้อย่างไร โดยระบุว่า “เบื้องหลังห้องแต่งตัวที่ดีมันเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด มันสำคันกว่าเรื่องใดๆทั้งสิ้น เมื่อนักเตะมีความสุข เราก็จะประสบความสำเร็จได้”
เชื่อได้ว่า คำพูดของ เดล บอสเก้ นั้น เป็นสิ่งที่ กวาร์ดิโอล่า ก็ใช้เป็นแนวทางในการทำงานตลอดหลายปีที่ผ่านมาของเขาด้วยเช่นเดียวกัน