pep2

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กับการรับมือความกดดัน

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยอดเทรนเนอร์ชาวสเปนของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรยักษ์ใหญ่และมหาเศรษฐีแห่งศึกพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เปิดเผยความรู้สึกว่าในช่วงเริ่มต้นเส้นทางอาชีพผู้จัดการทีมกับ บาร์เซโลน่า ในศึกลา ลีกา สเปน นั้น เขารู้สึกกังวลกับสิ่งเล็กๆน้อยๆรอบตัวอยู่เสมอ  

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป และมีประสบการณ์มากขึ้นจากจุดเริ่มต้นที่ บาร์เซโล่นา ในระหว่างปี 2008-2012 จากนั้นก็ไปคุม บาเยิร์น มิวนิค ในบุนเดสลีกา ระหว่างปี 2013-2016 ก่อนจะโยกมาคุม แมนฯ ซิตี้ ในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี เมื่อปี 2016 ถึง ปัจจุบันนั้น กวาร์ดิโอล่า ก็เริ่มเปิดใจว่า บางสิ่งบางอย่างมันอยู่เหนือการควยคุมของเขา

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กับแนวทางการทำงานที่ผ่อนคลายมากขึ้น

โค้ชชาวสเปนวัย 50 ปี เริ่มกล่าวว่า “ผมจำได้ว่า ตอนที่ผมอยู่กับ บาร์เซโลน่า ในตอนต้นๆนั้น ผมกังวลกับทุกอย่างไปหมด และอ่อนไหวกับทุกอย่างมากๆ แต่หากเปรียบเทียบกับตอนนี้ ผมจัดการกับสถานการณ์ต่างๆได้ดีขึ้นกว่าเดิม”

“ผมได้เรียนรู้อะไรมากมายที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผมเป็นผู้จัดการทีมที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง และรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้จัดการทีมที่ดีกว่าตอนที่ผมเริ่มต้นกับ บาร์เซโลน่า ผมคิดว่า มันเกิดจากประสบการณ์ที่งหมดที่ผมเผชิญหาทั้งใน และนอกสนาม”

“ในประเทศ เยอรมัน หรือ สเปน และตอนนี้ที่อังกฤษ ผมคิดเสมอว่า มันเป็นความท้าทายที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง ผมจะบอกว่าการทำงานในทุกๆประเทศ มันมีข้อดี และข้อเสียแตกต่างกันไป เพราะถ้าทุกๆที่เหมือนกันหมด ผมคิดว่า มันคงเป็นเรื่องที่น่าเบื่อมาก”

“คุณไม่สามารถมีความคิดแบบเดียวกันกับเมื่อ 12 หรือ 13 ปีที่แล้วได้หรอก คุณอาจจะกลายเป็นคนเกียจคร้าน และกลัวความท้าทาย คุณจะไม่มีสัญชาตญาณ หรือความปรารถนาที่จะคิดว่า โอ้ บางทีเราอาจจะลองทำแบบนั้นบ้าง ถึงแม้ว่า บางทีมันอาจจะเป็นความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นตามมาในอนาคตก็ตาม”

“คุณต้องสร้างวิวัฒนาการบางอย่างในระหว่างกระบวนการความคิดของตัวเองอยู่เสมอ วิวัฒนาการที่คุณต้องลองทำเพื่อพยายามประสบความสำเร็จ ดังนั้น คุณจะไม่เบื่อตลอดเวลาที่ทำแบบเดียวกันในตอนท้าย สำหรับผม ชีวิต คือ ประสบการณ์ และการเรียนรู้เพื่อปรับปรุงสิ่งต่างๆให้ดีขึ้นอยู่เสมอ”

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

พูดถึงคู่แข่งที่สำคัญ และให้ความเคารพอยู่เสมอ

มันเป็นเวลากว่า 6 ปีแล้วที่ กวาร์ดิโอล่า เข้ามากุมบังเหียนในถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม และคู่แข่งที่สำคัญที่สุดของเขาก็คือ ลิเวอร์พูล ภายใต้การนำของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยอดกุนซือชาวเยอรมัน ซึ่งทั้ง “เรือใบสีฟ้า” และ “หงส์แดง” ต่างก็ขับเคี่ยวแย่งแชมป์กันอย่างสนุกทั้งในอังกฤษ และยุโรป

ขณะเดียวกัน บรรดากูรูลูกหนังเมืองผู้ดีหลายคนยกย่องว่า แมนฯ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล เป็น 2 สโมสรที่ดีที่สุดของ พรีเมียร์ลีก ในเวลานี้ ซึ่งทั้ง กวาร์ดิโอล่า และ คล็อปป์ ต่างก็ถูกเปรียบเทียบว่า คล้ายกับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และ อาร์แซน เวนเกอร์ ที่เคยแย่งชิงกันพา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ อาร์เซน่อล ก้าวเข้าสู่การเป็นมหาอำนาจในช่วงปลายปี 90 ถึงยุค 2000

กวาร์ดิโอล่า แสดงความคิดเห็นว่า “ในช่วงเวลาอาชีพผู้จัดการทีมของผมที่อังกฤษ สิ่งที่ผมจะจำได้คือการแข่งขันกับ ลิเวอร์พูล แน่นอน ในปี 2018 เราเคยเก็บได้ 100 แต้ม และเป็นแชมป์ แต่ในปี 2019 เราเป็นแชมป์ที่ 98 คะแนน แต่พวกเขาก็มี 97 คะแนน”

“ในปี 2020 พวกเขาก็คว้าแชมป์สำเร็จ และในปีต่อมา เราเป็นแชมป์ แต่พวกเขาจบอันดับ 3 เนื่องจากมีปัญหานักเตะบาดเจ็บมากมาย และในปีที่ผ่านมา เราคว้าแชมป์ที่ 93 คะแนน แต่ ลิเวอร์พูล ก็เก็บได้ 92 คะแนน ซึ่งมันเป็นการแข่งขันที่สูสีมากๆ”

“ผมคิดว่า เราทั้ง 2 สโมสรต่างผลักดันกันและกัน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และ อาร์แซน เวนเกอร์ ต่อสู้กันมาหลายปีแล้ว แต่ผม และ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังต้องใช้เวลาอีกมากในการทำแบบพวกเขาทั้ง 2 คน”

การที่ แมนฯ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล เป็น 2 สโมสรที่ต่อสู้กันมาดุเดือดตลอดหลายซีซั่นที่ผ่านมานั้น ทำให้แฟนบอล และสื่อทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็เคยโจมตีกัน รวมถึงการแถลงข่าวที่ กวาร์ดิโอล่า และ คล็อปป์ มักจะถูกขอให้แสดงความคิดเห็นถึงอีกฝ่ายด้วย

อย่างไรก็ตาม กวาร์ดิโอล่า ยืนยันว่า ตัวเขา และ คล็อปป์ ไม่มีปัญหากันนอกสนามแต่อย่างใด และยังคงให้ความเคารพกันอยู่เสมอ

อดีตโค้ช บาร์เซโลน่า และ บาเยิร์น กล่าวต่อว่า “ตั้งแต่เราเคยเจอกันในเยอรมัน ผมได้กล่าวว่าสำหรับวิธีที่ทีมของเขาเล่น และสำหรับพฤติกรรมในสนามของเขา ผมคิดว่า เจอร์เก้น ทำให้โลกฟุตบอลเป็นสถานที่ที่น่าอยู่มากขึ้น”

“ดังนั้นผมจึงสนุกกับการดู ลิเวอร์พูล มันเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่สำหรับพวกเขาเช่นกัน และผมชอบที่จะเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่ยากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และพยายามที่จะเอาชนะพวกเขาให้ได้” กวาร์ดิโอ ล่า กล่าวทิ้งท้าย