pep-1

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กับแรงผลักดันคว้าแชมป์

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยอดผู้จัดการทีมชาวสเปนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เปิดเผยความรู้สึกว่า เสียใจอยู่ลึกๆหากไม่สามารถพาทีมคว้าแชมป์รายการที่มีลุ้นมาครองได้สำเร็จ แต่เขาก็ใช้มันเป็นแรงผลักดันเพื่อไล่ล่าถ้วยรางวัลในปีต่อไป แม้จะพบเพิ่งเผชิญกับความผิดหวังก็ตาม

ย้อนกลับไปในซีซั่นที่ผ่านมา อดีตนายใหญ่ “เจ้าบุญุทุ่ม” บาร์เซโลน่า ในศึกลา ลีกา สเปน และ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ในศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน พา แมนฯ ซิตี้ คว้าแชมป์ได้ 1 รายการคือ แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายที่ กวาร์ดิโอล่า พา แมนฯ ซิตี้ เข้าไปถึงแค่รอบตัดเชือกในศึก เอฟเอ คัพ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังจากต้องตกรอบด้วยฝีมือของ ลิเวอร์พูล ภายใต้การนำของ เจอร์เก้น คล็อปป์ โค้ชชาวเยอรมัน และ เรอัล มาดริด ของ คาร์โล อันเชล็อตติ เทรนเนอร์ชาวอิตาเลียน ตามลำดับ

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

ความมุ่งมั่นของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

กวาร์ดิโอล่า กล่าวว่า “ผมพยามยามบอกลูกทีมทุกๆคนว่า คุณจงอย่าพลาดช่วงเวลาเหล่านี้ อย่าเสียโอกาส และสนุกกับมัน เพราะคุณสมควรได้รับมันสำหรับการทำงานหนักของพวกคุณ ถึงแม้สุดท้ายแล้วมันจะออกมาได้ไม่สมบูรณ์แบบก็ตาม”

“ผู้คนส่วนใหญ่ก็คงพูดอย่างที่ผมพูด และมันเป็นเรื่องจริง ในชีวิตยังมีสิ่งที่สำคัญกว่านั้นมากมาย แต่ผมจะเสียใจถ้าเราแพ้เกมที่เราไม่ได้เล่นด้วยสไตล์ของตัวเอง แต่ถ้าเราเป็นอย่างที่เราเป็น และฝ่ายตรงข้ามสามารถชนะได้ มันไม่เป็นไร เราโชคดีที่ได้อยู่ในช่วงเวลานี้ บางทีผมควรจะรู้สึกกดดัน แต่ ไม่เลย ผมไม่คิดแบบนั้น”

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา มันเป็นเรื่องที่ไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่า ลิเวอร์พูล ของ คล็อปป์ เป็นคู่แข่งแย่งแชมป์อันดับ 1 ของ แมนฯ ซิตี้ ซึ่ง กวาร์ดิโอล่า ก็คิดแบบนั้นเช่นกัน แต่เจ้าตัวก็ระบุว่า ไม่อยากนำเรื่องของ “หงส์แดง” มากดดันตัวเองมากจนเกินไป และคิดเพียงแค่เกมต่อเกมเท่านั้น

การเผชิญหน้ากับคู่แข่งสำคัญ

อดีตกุนซือ บาร์เซโลน่า และ บาเยิร์น กล่าวต่อว่า “ในหลายๆปีที่ผ่านมา ผมไม่เคยคิดล่วงหน้ามากจนเกินไปว่า เราจะเจอกับ ลิเวอร์พูล วันที่เท่าไร? หรือเราจะเล่นกับพวกเขาในรายการใดบ้าง แต่แน่นอนว่า ในบางสถานการณ์เราก็ต้องศึกษาพวกเขาอย่างละเอียด”

“การชนะพวกเขาแค่เกมเดียวอาจจะไม่เพียงพอ หากเราต้องเจอกัน 2 เลก ในบางรายการ แต่ผมคิดว่า มันจะเป็นก้าวสำคัญสำหรับเรา และเรารู้ว่า ว้าว นี่คือเกมที่ยอดเยี่ยม พวกคุณก็รู้ดี เราก็รู้เช่นเดียวกัน ดังนั้น ผมจะไม่ปฏิเสธว่า การเผชิญหน้ากับ ลิเวอร์พูล มันแตกต่างจากเกมอื่นอย่างแท้จริง”

“พวกคุณรู้หรือไม่ว่าการเตรียมตัวในการเจอกับทีมที่แข็งแกร่งอย่าง ลิเวอร์พูล มันจะต้องแตกต่างกันจาเกมอื่นๆเล็กน้อย และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพราะพวกเขาทำในบางสิ่งที่ไม่มีทีมอื่นในโลกใบนี้ทำได้ ยกตัวอย่าง การเคลื่อนที่ของพวกเขายอดเยี่ยมมาก”

“แนวรุกที่พวกเขามีอยู่ด้านหน้านั้น อันตรายมาก พวกเขาเคยมีผู้เล่นที่น่าเหลือเชื่อ 3 คนในเกมรุกอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ และ โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ และตอนนี้ก็มีนักเตะที่สุดยอดอย่าง หลุยส์ ดิอาซ, ดิโอโก้ โชต้า บวกกับ ดาร์วิน นูนเญซ เพิ่มมาอีก”

“สำหรับเราเราไม่มีกองหน้าที่เหมาะสมกับแนวทางของเราเมื่อปีที่แล้ว แต่มันคือสิ่งที่มันต้องเป็น เราจึงคว้า เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ เข้ามา แต่ปีที่ผ่านมาเรายังคงทำประตูได้มากมายในรูปแบบการเล่นของเรา ดังนั้นเราจะทำมันในสไตล์ของเราต่อไป”

“เราต้องทำงานในสิ่งที่เราต้องทำเพือ่ให้ตัวเองพัฒนาขึ้นอยู่เสมอ การพูดคุยรายละเอียดต่างๆ และเตรียมรับมือกับทีมคู่แข่งที่เราต้องเผชิญหน้าด้วย แต่สุดท้ายเราก็ยังทำตัวให้ปกติมากที่สุดตามธรรมชาติด้วยการ นอนหลับ ตื่นเช้า กินข้าวเช้า กลางวัน เย็น ในแนวทางที่เหมาะสม”

“ดังนั้น ผมจึงเตรียมการฝึกซ้อมอย่างเต็มที่ และละเอียด จากนั้น ผมจะพักผ่อนเล็กน้อย และผ่อนคลายอย่างเต็มที่ด้วยการดูทีวีรายการต่างๆ อาทิ การแข่งขันกอล์ฟ และกีฬาประเภทอื่นๆ”

เห็นได้ชัดเจนว่า กวาร์ดิโอล่า เป็นคนที่สงบนิ่งเสมอเมื่อเผชิญกับความกดดันในการแข่งขันตลอดอาชีพในวงการฟุตบอล แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องทำงานอย่างจริงจังนั้น เขาก็เป็นคนที่เก็บรายละเอียดได้เยอะมาก ก่อนจะนำมันมาถ่ายทอดสู่นักเตะ แมนฯ ซิตี้

มันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลยที่ แมนฯ ซิตี้ ประสบความสำเร็จแทบทุกปี และภายใต้การนำของ กวาร์ดิโอล่า นั้น พลพรรค “เรือใบสีฟ้า” ก็พัฒนาแนวทางการเล่นอยู่เสมอ ซึ่งเป็นงานทายากพอสมควรที่บรรดาคู่แข่งทั้งในอังกฤษ และยุโรป จะไล่ตามพวกเขาทัน